กากกาแฟ มีประโยชน์มากกว่าที่คิด

กากกาแฟ มีประโยชน์มากกว่าที่คิด

แรงบันดาลใจ SME

GlobalLinker Staff

GlobalLinker Staff

240 week ago — ใช้เวลาอ่าน 4 นาที

 

กาแฟเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมที่หลายคนต้องดื่มเป็นประจำทุกวันก่อนทำงาน เพราะช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ทำให้สมองตื่นตัว และความคิดปลอดโปร่ง ด้วยสารคาเฟอีนในเมล็ดกาแฟ ปัจจุบันกาแฟกลายมาเป็นเทรนด์ทางวัฒนธรรม เห็นได้จากร้านกาแฟที่เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งมีความพิถีพิถันในการชงกาแฟมากขึ้น และมีบาริสต้าที่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องกาแฟอย่างจริงจัง มีสาเหตุมาจากผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับการดื่มกาแฟมากขึ้น 

 

ตั้งแต่ชนิดของเมล็ดกาแฟ อุณหภูมิของน้ำ และกรรมวิธีการชง เพราะทุกอย่างล้วนมีผลต่อรสชาติของกาแฟ จนไปถึงความสวยงามในการตกแต่งแก้วกาแฟก่อนเสิร์ฟ แต่เมื่อชงกาแฟเสร็จก็จะเหลือกากกาแฟจำนวนมากที่เกิดจากกระบวนการชงกาแฟจำนวนมหาศาล ซึ่งไม่มีใครให้ความสำคัญแล้วต้องถูกทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย เพราะหลายคนไม่รู้ว่ากากกาแฟนั้นมีสารพัดประโยชน์ 

 

ซึ่งในต่างประเทศได้มีการนำกากมาแฟมาใช้ประโยชน์มานานแล้ว ทั้งนำมาเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์บำรุงผิว นำมาใช้ในการดับกลิ่น นำมาใช้ขจัดความมันหลักการทำอาหาร ใช้ในการเกษตร จนไปถึงการนำไปแปรรูปทำเป็นสินค้า อย่างภาชนะใส่อาหาร และสกัดเป็นน้ำมันสารพัดประโยชน์เรามารู้จักกับประโยชน์ของกากกาแฟให้มากขึ้นกันเถอะ

 

  • ใช้ในการทำการเกษตร ในกากกาแฟนั้นมีแร่ธาตุอย่างไนโตรเจน โพแทสเซียม และฟอสฟอรัส ซึ่งช่วยในการเติบโตของพืช จึงสามารถใช้เป็นส่วนผสมของปุ๋ยหมักได้ เพียงแค่นำกากกาแฟไปหมักกับเศษผลไม้ เศษอาหาร เศษใบไม้ หรือน้ำหมักชีวภาพ นอกจากนี้การนำกากกาแฟโรยไว้รอบ ๆ แปลงเพาะปลูก สามารถช่วยไล่แมลงศัตรูพืชและหอยทาก ที่เข้ามาในพื้นที่เพาะปลูกได้ เพราะกากกาแฟนั้นมีความขมอ่อน ๆ และมีความเป็นกรด ทำให้หอยทากและแมลงศัตรูพืชไม่ชอบ

 

  • ใช้ในการดับกลิ่น ประโยชน์อีกอย่างของกากกาแฟ คือสามารถดูดซับกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ เช่น กลิ่นเหม็นอับของตู้เสื้อผ้า หรือตู้เย็น โดยเราสามารถนำกากกาแฟใส่ถ้วยวางไว้ตามซอกของตู้ต่าง ๆ ก็จะช่วยกำจัดกลิ่นเหม็นได้ หรือแม้แต่การช่วยดับกลิ่นอับภายในรองเท้า โดยการนำกากกาแฟวางบนผ้าแล้วมัด และนำไปวางในรองเท้า

 

  • ใช้ขัดผิวและบำรุงผิว เมื่อนำกากกาแฟไปขัดผิว กากกาแฟมีคุณสมบัติที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมา ทำให้หน้ากระจ่างใสขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถเอากากกาแฟมาผสมกับนม โยเกิร์ต และน้ำผึ้ง แล้วเอามามามาส์กหน้าเพื่อความผ่อนคลายได้อีกด้วย เพราะกากกาแฟสามารถดูดซับเอาสิ่งสกปรกภายในหน้าออกมา ช่วยให้ผิวเรียบเนียนและลดริ้วรอยจุดด่างดำ เหมือนทำดีทอกซ์ให้กับผิว

 

  • นำมาแปรรูปเป็นภาชนะ โดยบริษัทสัญชาติเยอรมันอย่าง Kaffeeform ที่เกิดไอเดียสร้างภาชนะโดยการใช้กากกาแฟเป็นส่วนประกอบถึง 40% ผสมกับเส้นใยธรรมชาติ เศษไม้ และไบโอโพลิเมอร์ ส่วนผสมทั้งหมดจะถูกทำให้เหลว แล้วนำไปขึ้นรูปด้วยความร้อน ภาชนะที่ทำจากกากกาแฟนั้นมีข้อดีคือ มีน้ำหนักเบา ทนทาน สามารถใช้กับเครื่องล้างจานได้ และสามารถย่อยสลายได้ ถือเป็นการนำขยะมารีไซเคิลให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ปัจจุบัน Kaffeeform มีสินค้า 3 แบบ คือแก้วเอสเปรสโซ แก้วคาปูชิโน่ และแก้วแบบ take away โดยมีวางขายในเบอร์ลิน ลอนดอน ปารีส และประเทศอื่น ๆ ในยุโรป



  • นำไปสกัดออกมาเป็นน้ำมันสารพัดประโยชน์ โดยบริษัทสตาร์ทอัพอย่าง Revive Eco จากสกอตแลนด์ ซึ่งเห็นถึงประโยชน์ของกากกาแฟที่เหลือทิ้งเป็นจำนวนมากต่อวัน จึงได้เริ่มศึกษากระบวนการสกัดน้ำมันจากกากกาแฟ ซึ่งมีสารพัดประโยชน์ สามารถนำไปใช้ประกอบอาหาร ทำเครื่องดื่ม ใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอาง และเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ได้อย่างปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายคือพัฒนาน้ำมันจากกากกาแฟ ให้สามารถใช้ทดแทนน้ำมันปาล์มได้ เพื่อให้เป็นพลังงานทางเลือกที่ยั่งยืน และลดการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อใช้ปลูกต้นปาล์ม


จะเห็นว่ากากกาแฟนั้นมีประโยชน์หลากหลายมากกว่าที่เราคิด ซึ่งในต่างประเทศตระหนักถึงประโยชน์ของกากกาแฟมานานแล้ว ทั้งการนำมาใช้ประโยชน์ส่วนตัวในครัวเรือน และนำไปรีไซเคิลทำเป็นสินค้าออกมาขายช่วยเหลือเศรษฐกิจและเป็นมิตรกับธรรมชาติ สำหรับประเทศไทยเป็นประเทศที่ตลาดกาแฟกำลังโตขึ้นเรื่อย ๆ คาดว่าต่อไปอาจมีคนนำกากกาแฟไปต่อยอดสร้างไอเดียและโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ ก็เป็นได้

 

 

Comments