สร้างความแข็งแกร่งให้แบรนด์ Brand Health

สร้างความแข็งแกร่งให้แบรนด์ Brand Health

Branding & PR

GlobalLinker Staff

GlobalLinker Staff

307 week ago — 3 min read

เราอาจจะได้ยินบ่อยๆ เรื่องการรักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์หรือว่ามุมมองของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ ซึ่งแน่นอนว่าภาพลักษณ์ของแบรนด์เองมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของลูกค้า นอกจากภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เราต้องคำนึงถึงแล้วยังต้องมีโครงสร้างรากฐานของแบรนด์ที่แข็งแรง เพื่อให้ผู้บริโภคภักดีต่อแบรนด์ให้มากที่สุด Brand Health เป็นความน่าเชื่อถือที่สามารถดึงดูดให้ลูกค้าอยู่กับแบรนด์ของเราได้นานที่สุด โดยเจ้าของแบรนด์ควรศึกษาและสร้าง Brand Health ได้ดังนี้

 

  1. ตรวจสอบพฤติกรรมการซื้อและการบริโภคสินค้า โดยศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคในกลุ่มเป้าหมายว่ามีการบริโภคแบรนด์ของเราหรือแบรนด์คู่แข่งมากน้อยเพียงใด และหาสาเหตุว่าเพราะใดถึงได้มีการเปลี่ยนแปลงการบริโภค

  2. สร้างค่านิยมการยอมรับในแบรนด์ ยกระดับโดยสร้างภาพลักษณ์และค่านิยมในแง่บวกให้กับแบรนด์ เพื่อให้ผู้บริโภคจดจำและนึกถึงอยู่เสมอ

  3. นำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยการสร้างสิ่งที่แตกต่างและน่าตื่นเต้น เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภค

  4. โปรโมตกิจกรรมและโฆษณาเพื่อสร้างการจดจำและ branding สินค้าให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยสร้างกิมมิคให้กับแบรนด์และกิจกรรมที่จัดขึ้น

  5. สร้างการเข้าถึงสินค้าในหลากหลายช่องทาง ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นและไม่มีความรู้สึกลำบากในการค้นหาสินค้าเพื่อบริโภค

 

ตัวอย่างของการสร้าง Brand Health ที่น่าสนใจคือสงครามน้ำดำที่เกิดไปเมื่อช่วงสงกรานต์ ซึ่งเจ้าของค่ายน้ำดำยักษ์ใหญ่สองค่ายได้ยึดเอาเทศกาลสงกรานต์มาสร้าง Brand Health ให้กับตัวเอง เริ่มจาก Pepsi ได้จัดงาน Music Festival ขนาดใหญ่เอาใจวัยรุ่น เพื่อให้กลุ่มลูกค้าที่ตั้งไว้เกิดการจดจำกิจกรรมงาน EDM ที่มี Pepsi เป็นผู้จัดเท่านั้น ส่วน EST ได้ลงทุนจ้างวงดนตรีชื่อดังอย่าง Bodyslam มาในงาน Music Festival เช่นกัน และยังได้นำศิลปินวง GOT7 มาเป็น Brand Embassdor จึงทำให้ผู้บริโภคเกิดความภักดีทั้งตัวสินค้าและแบรนด์อีกด้วย

 

การสร้าง Brand Health เปรียบเสมือนการสร้างความแข็งแกร่งให้แบรนด์ และสร้างความน่าเชื่อถือให้ผู้บริโภคภักดีต่อแบรนด์ของเรามากขึ้น เพราะด้วยปัจจัยหลายอย่างในปัจจุบันที่มีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงแบรนด์อื่นที่มีสินค้าคล้ายๆ กันได้ง่าย และทำให้มีโอกาสเปลี่ยนแปลงการบริโภคได้ง่ายเช่นกัน

 

Comments (1)