AI (Artificial Intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ เป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจจาก SMEs อยู่ไม่น้อย หลายคนสนใจแต่ยังไม่รู้ว่าจะสามารถนำเอาเทคโนโลยีนี้เข้ามาใช้กับธุรกิจของตนเองได้อย่างไรบ้าง ความจริงแล้ว AI ได้แทรกตัวเข้ามาในชีวิตประจำวันของเรานานสักพักแล้ว ตัวอย่างที่ใกล้ตัวที่สุดอยู่บนโทรศัพท์มือถือของเรา แอปพลิเคชันที่รู้จักกันดีอย่าง Siri หรือ Google Assistant หรือ Google Translate ที่เราใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวัน

AI ดีเด่นอย่างไร

สิ่งที่ทำให้ AI มีความน่าสนใจสำหรับธุรกิจที่เรียกได้ว่าเป็นข้อดีเด่นของ AI เลยก็คือ

• AI ไม่ต้องการการพักผ่อน สามารถทำงานได้ตลอดเวลา เรียกว่าทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงซึ่งแน่นอนต่างจากการทำงานของคนที่ต้องมีเวลาพักผ่อน AI ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อยหรือพักผ่อน  มันสามารถทำงานตามที่เราตั้งโปรแกรมไว้ให้โดยไม่ต้องหยุด

• เรียนรู้และฝึกฝนตัวเองได้ ข้อดีอย่างหนึ่งของ AI คือมนุษย์สามารถตั้งโปรแกรมให้ AI เรียนรู้ ฝึกฝน และพัฒนาตัวเองได้ ปัจจุบันในการแข่งขันเล่นเกม AI สามารถเก็บข้อมูล เรียนรู้ และพัฒนาได้รวดเร็วจนสามารถเอาชนะผู้เล่นที่เป็นคนได้แล้ว

• ไม่มีอารมณ์ ความรู้สึกแบบมนุษย์ ด้วยคุณสมบัติข้อนี้นี่เอง AI จึงถูกนำมาใช้ในงานที่ต้องรับความกดดันโดยเฉพาะกับงานบริการลูกค้าเพื่อให้เกิดประสบการณ์ที่ดี ดังนั้นจะเห็นว่างานประเภท Call Center จึงนิยมนำ AI มาใช้เพราะสามารถทำงานที่มีลักษณะซ้ำ ๆ ได้อย่างไม่เบื่อ เช่น ตอบคำถามลูกค้า ชี้แจงข้อมูลพื้นฐาน ฯลฯ โดยจะไม่มีการแสดงอารมณ์ น้ำเสียง หรือความรู้สึกแบบมนุษย์

• วิเคราะห์และจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาลได้แม่นยำ นี่คือข้อดีเด่นของ AI ที่น่าจะเรียกว่าเหนือกว่ามนุษย์แน่นอน เพราะ AI สามารถประมวลผลข้อมูลอันมหาศาลได้อย่างแม่นยำ ทำให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว AI เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลทั้งพฤติกรรมผู้บริโภค วิเคราะห์ความต้องการของตลาด ไปจนถึงการทำตลาดแบบรายบุคคลได้เลย

ประโยชน์ของ AI ที่ SMEs นำมาใช้ในธุรกิจได้

1. วิเคราะห์ข้อมูลแม่นยำ

ข้อมูลจำนวนมหาศาลที่มีความซับซ้อน AI สามารถวิเคราะห์ออกมาได้อย่างรวดเร็ว หากเป็นแรงงานคนอาจต้องใช้เวลาที่นานกว่ามาก ซึ่งนอกจากจะได้ความรวดเร็วแล้ว ความถูกต้องแม่นยำยังถือว่าเหนือกว่าแรงงานคนอีกด้วย การนำ AI มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล เช่น การค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต การวิเคราะห์ข้อมูลการลงทุน การตรวจหาโรค การตรวจสอบความผิดปกติในการซื้อขายแบบอีคอมเมิร์ซ การตรวจสอบความปลอดภัยของข้อมูล ฯลฯ

2. สร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า

โดยเฉพาะงานในลักษณะของ Call Center ที่มีการนำ Chatbot เข้ามาใช้ในการให้บริการข้อมูลพื้นฐานต่าง ๆ แทนการใช้แรงงานคน ด้วยคุณสมบัติที่ดีของ AI ที่ไม่มีอารมณ์หรือความรู้สึกแบบมนุษย์ในการทำงาน จึงสามารถที่จะตอบคำถามหรือให้ข้อมูลซ้ำ ๆ ได้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย นอกจากนั้น AI ยังสามารถเก็บข้อมูลของลูกค้าและนำมาประมวลผลวิเคราะห์ได้พร้อม ๆ กัน ซึ่งข้อมูลที่ได้สามารถนำมาพัฒนาธุรกิจเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้าต่อไปได้อย่างดี

3. ผู้ช่วยในการตัดสินใจ

AI จะทำการประมวลผลและวิเคราะห์จากข้อมูลที่มีอยู่จริง โดยไม่มีการนำเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก ทัศนคติ ฯลฯ เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยใช้เวลาไม่มากแต่ว่ามีความแม่นยำสูง ดังนั้น ข้อมูลที่ได้มาคือสิ่งที่ใช้ประกอบในการตัดสินใจทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี และสามารถนำมาต่อยอดเพื่อพัฒนาธุรกิจได้อีกด้วย