Cashless society เมื่อทุกที่ไม่ใช้เงินสด

Cashless society เมื่อทุกที่ไม่ใช้เงินสด

การพัฒนาธุรกิจ

GlobalLinker Staff

GlobalLinker Staff

288 week ago — ใช้เวลาอ่าน 4 นาที

สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) กำลังคืบคลานเข้ามาในสังคมไทยเรื่อย ๆ และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตอนนี้ผู้บริโภคเริ่มมีการเปลี่ยนพฤติกรรมจากการใช้เงินสดมาเป็นการจ่ายแบบออนไลน์มากขึ้น เพียงมีสมาร์ทโฟนและแอปพลิเคชันที่ธนาคารต่าง ๆ พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้สะดวกต่อผู้ใช้งานในการทำธุรกรรมทางการเงิน จึงอาจคาดการณ์ได้ว่าเราจะเข้าสู่การเป็นสังคมไร้เงินสดในที่สุด ข้อมูลที่น่าสนใจคือปัจจุบันประเทศสวีเดนกลายเป็นประเทศที่มีสังคมไร้เงินสดเกือบจะทั้งประเทศ มีการใช้จ่ายเป็นเงินสดเพียง 13 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เมื่อลองนึกภาพดูว่าต่อไปหากไม่ต้องพกเงินสด ทุกการใช้จ่ายสามารถทำธุรกรรมทางออนไลน์ จะทำให้เกิดอะไรขึ้นบ้าง มีผลลัพธ์ต่อสังคมอย่างไร

 

ความสะดวกสบายสู่พฤติกรรมการใช้เงินที่เปลี่ยนไป

วันนี้ความสะดวกสบายในการทำธุรกรรมทางการเงินส่งผลถึงพฤติกรรมการใช้เงินที่เปลี่ยนไป นี่เป็นข้อที่ชัดเจนที่สุด เพราะทุกคนทำธุรกรรมทางการเงินแบบออนไลน์ได้ง่ายเพียงแค่ปลายนิ้ว ทำรายการสำเร็จได้เพียงไม่กี่วินาที ด้วยความง่ายและความสะดวกสบายนี้เป็นปัจจัยหลักในการกระตุ้นให้มีเงินเดินสะพัดมากขึ้น คุณไม่จำเป็นต้องพกเงินสดและไม่ต้องกลัวเงินสูญหาย คุณไม่จำเป็นต้องไปทำธุรกรรมถึงธนาคาร ไม่ต้องรอคิวเพื่อถอนเงิน ฝากเงิน หรือโอนเงินอีกต่อไป ทำให้ประหยัดเวลาได้อย่างมาก นอกจากนั้นแล้วผลิตภัณฑ์บางอย่างของธนาคารก็ทำให้คุณประหยัดเงินได้ เช่น ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการบริการข้ามจังหวัดหรือต่างธนาคาร หรือมี Cash Back เมื่อเราใช้จ่ายไปแล้วก็ได้เงินคืนกลับมาตามที่ธนาคารกำหนด อย่างไรก็ตามความง่ายดายนี้ก็อาจทำให้คนตัดสินใจใช้จ่ายเงินง่ายเกินไป ซึ่งเป็นภาวะเสี่ยงที่อาจใช้เงินเกินตัวนั่นเอง

 

บันทึกธุรกรรมทางการเงินได้ทันที

ธุรกรรมที่เราทำทั้งหมดจะถูกบันทึกทันที ไม่ว่าเงินเข้า หรือเงินออก จำนวนเท่าไหร่ และเมื่อไหร่ ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งต่อภาครัฐบาลและต่อตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องภาษีต่าง ๆ รวมไปถึงเป็นประโยชน์กับตัวบุคคลที่สามารถยื่น Statement ต่าง ๆ เกี่ยวกับการกู้เงินที่อาจส่งผลให้อนุมัติได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น เพราะประวัติทางการเงินที่มีความน่าเชื่อถือ แต่หากมองอีกมุมหนึ่งก็จะทำให้ตัวบุคคลเป็นหนี้ได้ง่ายขึ้นด้วยเช่นกัน

 

ความปลอดภัย VS ความเสี่ยง

เมื่อก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสดอย่างเต็มตัวเราจะได้รับทั้งความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงินมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การใช้จ่ายโดยการโอนเงินจากบัญชีหนึ่งไปสู่บัญชีหนึ่งในทันทีเป็นเรื่องที่ง่าย และป้องกันการสูญหายจากการถือเงินสดไว้กับตัวที่หากเราถูกโจรกรรมเงินเราจะศูนย์เปล่าไปในทันที และถ้าเราต้องพกเงินสดไปต่างประเทศและพบกับปัญหาโจรกรรมอาจเป็นเรื่องที่ยุ่งยากได้ เพราะฉะนั้นการใช้จ่ายโดยระบบออนไลน์จึงดูเป็นเรื่องที่ง่ายและปลอดภัยกว่ามาก

 

แต่เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ ถึงแม้ว่าการดำเนินธุรกรรมทางการเงินจะง่ายและสะดวก แต่หากสมาร์ทโฟนที่เป็นเครื่องมือหลักในการทำธุรกรรมเกิดสูญหายหรือถูกขโมยไปก็อาจทำให้การทำธุรกรรมทางการเงินสะดุดลงชั่วขณะ และหากช่วงเวลานั้นคุณไม่มีเงินสดติดตัวด้วยแล้วละก็ อาจกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งยากลำบากไม่น้อยเลยทีเดียว

 

การใช้จ่ายเงินระหว่างประเทศ

ขณะที่ทั่วโลกเริ่มเห็นความสำคัญของสังคมไร้เงินสด และในหลายประเทศเริ่มมีการส่งเสริมให้มีการใช้จ่ายแบบออนไลน์มากขึ้น เพราะจะลดต้นทุนในการผลิตและลดการใช้ทรัพยากรได้อย่างมาก ทั้งทรัพยากรสิ่งของ เครื่องมือ และทรัพยากรมนุษย์ เมื่อทั่วโลกได้กลายเป็นสังคมไร้เงินสดและเป็นที่ยอมรับแบบสากลแล้ว การชำระเงินระหว่างประเทศหรือต้องการเปลี่ยนแปลงค่าเงินก็สามารถจัดการได้ง่าย สะดวกสบาย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้ประกอบการที่ทำการซื้อขายระหว่างประเทศผ่านระบบออนไลน์เพียงแค่ปลายนิ้ว รวมไปถึงนักท่องเที่ยวหรือบุคคลทั่วไปก็สามารถดำเนินการได้ง่ายและปลอดภัยเช่นกัน

 

 

แนวโน้มในปัจจุบันของสังคมที่จะเปลี่ยนแปลงไปสู่ Cashless society เป็นสิ่งที่ไปได้มากเลยทีเดียว ต้องยอมรับว่าสังคมไร้เงินสดมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่ด้วยการสนับสนุนของภาครัฐที่ส่งเสริมให้เราก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสดอย่างต่อเนื่องในหลายปีที่ผ่านมา ก็อาจเป็นไปได้สูงว่าจะสามารถก้าวสู่สังคมได้อย่างเต็มตัว เพราะในอนาคตเราจะเข้าสู่โลกดิจิทัลที่เต็มไปด้วยการพัฒนาทั้งแอปพลิเคชัน โทรศัพท์มือถือ และเทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยให้สังคมเศรษฐกิจที่ปราศจากเงินสดเป็นตัวขับเคลื่อน มองว่าความสำคัญของเงินสดที่จับต้องได้จะลดน้อยลง และถูกแทนที่ด้วยการใช้เทคโนโลยีในการทำธุรกรรมทางการเงินแทน  

 

Comments