สรุป 10 เทรนด์การตลาด-พฤติกรรมผู้บริโภค 2019 – 2020 เมื่อ “Disruptive World” รุนแรงขึ้น!!

สรุป 10 เทรนด์การตลาด-พฤติกรรมผู้บริโภค 2019 – 2020 เมื่อ “Disruptive World” รุนแรงขึ้น!!

การตลาด

GlobalLinker Staff

GlobalLinker Staff

222 week ago — ใช้เวลาอ่าน 4 นาที

สรุป 10 เทรนด์การตลาด-พฤติกรรมผู้บริโภค 2019 – 2020 เมื่อ “Disruptive World” รุนแรงขึ้น!!

 

หมดยุคที่ “ลูกค้า คือ พระเจ้า” เมื่อ Disruptive World ที่เทคโนโลยีมีอิทธิพลในการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภคสะดวกสบายมากขึ้นทุกวัน ทำสิ่งต่าง ๆ รวดเร็วขึ้น จนกลายเป็นว่าถูกเทคโนโลยีควบคุมโดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้ยังมี 10 เทรนด์การตลาด-พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ดังนี้

  1. การรักษาลูกค้าเก่า : เป็นการวางแผนกลยุทธ์ว่าตลอดทั้งปีจะมีการจัดกิจกรรมหรือแคมเปญที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับลูกค้าอย่างไรบ้าง  ซึ่งวิธีนี้ต้องอาศัยความสม่ำเสมอ ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นในแบรนด์และกลับมาซื้อสินค้าซ้ำ

  2. คำนึกถึงประสบการณ์ที่ผู้บริโภคจะได้รับ : ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ นักการตลาดสามารถที่จะเก็บข้อมูล เพื่อนำมาสร้างประสบการณ์ในระดับ Personalization ให้กับลูกค้าในแต่ละคน เพื่อให้ลูกค้าประทับใจได้ไม่ยาก

  3. Internet is Everything (IoE ) : นอกจาก Smart Phone, Labtop และอุปกรณ์ไอทีแล้ว ยังมีอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น รถยนต์ นาฬิกา แว่นตา ที่สามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตและระบบ Cloudจึงเป็นที่มาของ Internet is Everything ซึ่งในอนาคตมีแนวโน้มที่นักพัฒนาจะผลิตคิดค้นนวัตกรรมหรือระบบที่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น

  4. โลกเสมือนจริง :  ได้นำมาใช้งานแล้วในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกอย่างร้านวัตสัน ที่ผู้บริโภคสามารถเลือกทดลองเครื่องสำอางบนใบหน้าได้เสมือนจริง โดยที่ไม่จำเป็นต้องลองสินค้าตัวอย่างบนใบหน้าของตัวเอง

  5. การค้นหาด้วยเสียง : เทรนด์ต่อไปสำหรับการตลาดของ Search Engine เนื่องจากผู้บริโภคมีการค้นหาและเข้าถึงสินค้า บริการและข้อมูลต่าง ๆ ผ่านฟังก์ชั่นนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะรวดเร็วและสะดวกสบาย เช่น Domino’s Pizza มีฟังก์ชันให้ลูกค้าสามารถสั่ง pizza ออนไลน์ด้วยเสียง และ PayPal ได้พัฒนาระบบการจ่ายเงินโดยใช้เสียง เป็นต้น

  6. คอนเทนต์ : รูปแบบคอนเทนต์มีหลากหลาย เช่น บทความ รูปภาพ วิดิโอและกิ๊ฟ เป็นต้น ผู้บริโภคยังคงอ่าน แท็ก และแชร์คอนเทนต์ที่พวกเขาสนใจ ไม่ว่าจะเป็น คอนเทนต์ที่ให้ความรู้ ทำให้มีอารมณ์ขัน หรือเป็นคอนเทนต์ติดกระแส 

  7. กลุ่มคนที่ชอบอะไรเหมือนกัน : คนที่คล้ายกัน ชอบอะไรเหมือนกัน มักจะมีแรงดึงดูดเข้าหากัน ทำให้เกิดการรวมตัวกันของกลุ่มคนนั้น ๆ เพราะฉะนั้นการสร้างสังคมออนไลน์ โดยแบ่งกลุ่มตามความสนใจ จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ให้คุณค่ากับสินค้าหรือบริการนั้น ๆ เช่น กลุ่มคนที่เป็นคอกาแฟ ก็จะสรรหากาแฟที่ดี มีคุณภาพ ถึงแม้จะหายากก็ตาม เพราะพวกเขาให้ความสำคัญกับมัน ทำให้คนกลุ่มนี้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล ไม่ว่าจะเป็น ร้านกาแฟ ไร่กาแฟ โรงคั่ว และเมล็ดกาแฟ เป็นต้น

  8. อำนาจของการบริการ : ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้นเมื่อเทียบกับอดีต ผู้ประกอบการพยายามที่จะผลิตสินค้าที่มีคุณภาพที่ดีที่สุด เพื่อทำให้ผู้บริโภคพึงพอใจ แต่สินค้ามีคุณภาพอย่างเดียวคงจะไม่พอสำหรับผู้บริโภคในยุคสมัยนี้ เพราะผู้บริโภคได้ให้ความสนใจเรื่องของการบริการไม่ว่าจะเป็น ก่อนซื้อ ระหว่างซื้อและหลังการขาย บางคนยอมจ่ายในราคาที่แพงกว่าถ้าได้รับการบริการที่พิเศษกว่า

  9. การปกป้องข้อมูล : เนื่องจากในปัจจุบันการดำเนินธุรกิจหรือการบริหารงานในองค์กร มีข้อมูลจำนวนมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นจากระบบหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ การปกป้องข้อมูลไม่ให้ถูกเอาไปใช้นอกเหนือขอบเขตจึงเป็นสิ่งที่ควรคำนึกถึง เพราะนั้นสามารถบ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือขององค์กร เช่น กรณีแบงค์มีข้อมูลลูกค้ารั่วไหลออกไป ก็จะทำให้ความน่าเชื่อถือของแบงค์นั้นลดน้อยลง เป็นต้น

  10. การนำเทคโนโลยีเข้าไปช่วย : จากผลการสำรวจของ SAP ร่วมกับ Oxford Economics พบว่า 64% ของธุรกิจในปัจจุบันนี้มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้บริหารธุรกิจและคาดการณ์ว่าอีก 5 ปีข้างหน้าจะเพิ่มเป็น 94% ของธุรกิจทั้งหมด ซึ่งจากเทรนด์ปี 2020  Artificial Intelligence (AI) และ Machine Learning (ML) จะถูกนำไปใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจมากขึ้น ทั้งในส่วนของการวางแผนและวิเคราะห์ข้อมูล

ดังนั้นไม่ว่า “Disruptive World” จะรุนแรงขึ้นเพียงใด การโทษปัจจัยอื่น ๆ ที่เราไม่สามารถควบคุมได้ เช่น การเมือง เศรษฐกิจ หรือ ทรัพยากรขาดแคลน ไม่สามารถทำให้ธุรกิจเราเติบโตได้ แต่เราสามารถมุ่งโฟกัสและลงมือทำให้ดีที่สุดในสิ่งที่เราควบคุมได้ เพราะฉะนั้นการที่เราเข้าใจเทรนด์การตลาดที่จะเกิดขึ้น จะทำให้เราสามารถเตรียมตัวรับมือและพร้อมที่จะหาโอกาสทางธุรกิจให้ตัวเองได้เสมอ

Comments