แนวโน้มผู้บริโภคลดความวางใจและเชื่อใจจากโฆษณา

แนวโน้มผู้บริโภคลดความวางใจและเชื่อใจจากโฆษณา

การตลาด

GlobalLinker Staff

GlobalLinker Staff

218 week ago — ใช้เวลาอ่าน 5 นาที

แนวโน้มผู้บริโภคลดความวางใจและเชื่อใจจากโฆษณา 

    ยุคสมัยเปลี่ยนผู้คนก็ต้องเปลี่ยนแปลงตามไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความซับซ้อนของมนุษย์ยิ่งเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา ความเปลี่ยนแปลงสำคัญของทศวรรษที่ผ่านมามี 2 ด้านคือ ในภาคการผลิตในมุมของธุรกิจ และในมุมของผู้บริโภค 

    มุมของผู้ผลิต ยุคดิจิทัลเป็นยุคของความท้าทาย เป็นยุคที่ผู้ทำธุรกิจและนักการตลาดต้องเหนื่อยหนัก เพราะโลกนั้นปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา แต่ในอีกมุมหนึ่ง เทคโนโลยีนั้นก็มีผลเชิงบวกมากพอสมควร โดยเฉพาะด้านการผลิตและการทำธุรกิจ เพราะเทคโนโลยีสามารถช่วยลดต้นทุน โดยผู้ประกอบการรายย่อยไม่ต้องผลิตจำนวนมหาศาลอีกต่อไป เทคโนโลยีช่วยเชื่อมโลกเข้าด้วยกัน จึงเป็นโอกาสด้านการขายให้แบรนด์ที่เห็นโอกาส และเทคโนโลยียังช่วยเชื่อมแบรนด์ให้ใกล้ชิดกับผู้บริโภคอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน  

    ในมุมของผู้บริโภค  จะเห็นได้ว่าความคิดของผู้บริโภคไม่ได้เป็นแนวตรงอีกต่อไป แต่พวกเขามีวิธีคิดที่แยบยลและมีทางเลือกที่ชัดเจน การวิเคราะห์ผู้บริโภคยุคดิจิทัลนั้น เราต้องมองภาพรวมของชีวิตเขาเป็น แบรนด์ต้องเข้าใจทุกขั้นของความต้องการผ่านช่องทางต่างๆ ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น จึงกล่าวได้ว่ายุคนี้เป็นยุคที่ผู้บริโภคเป็นใหญ่อย่างแท้จริง แบรนด์ที่จะอยู่รอดคือแบรนด์ที่มีความเข้าใจและใส่ใจที่จะปรับตัวให้ตอบความต้องการของพวกเขาอย่างแท้จริง 

   ในยุคที่ลูกค้าเป็นใหญ่และเทคโนโลยีก้าวไกลจนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างหลากหลายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงมีแนวโน้มที่ผู้บริโภคจะลดความวางใจและเชื่อใจจากโฆษณา ด้วยปัจจัยหลักๆ 3 ปัจจัย ดังนี้ 

   1.ความรวดเร็วของสื่อ เนื่องจากระบบสัญญาณอินเทอร์เน็ตมีความเร็วสูง ทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้สื่ออินเทอร์เน็ต ในการทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกชมรายการที่ต้องการ การเล่นเกม หรือแม้แต่การซื้อสินค้าออนไลน์ ก็เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นมากสำหรับทุกวันนี้ ความรวดเร็วของสื่ออินเทอร์เน็ตที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้บริโภคไม่คุ้นเคยกับการต้องรอนาน และมีความต้องการในทันทีทันใด การมีโฆษณาขึ้นมาแทรกการทำกิจกรรมดังกล่าว อาจทำให้ไม่เป็นที่พอใจของผู้บริโภคเท่าใดนัก เพราะเนื่องจากว่า หากผู้บริโภคสนใจสินค้านั้นๆ จะเกิดจากการพบเห็นผู้ใช้จริง และรีวิว ไม่ว่าจะจากผู้คนในอินเทอร์เน็ตหรือคนรอบข้าง 

   2.ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย รู้ทันผู้ผลิต แน่นอนว่าเมื่อความรวดเร็วของอินเทอร์เน็ตมาถึง การเข้าถึงข้อมูลของผู้บริโภคเกิดขึ้นได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทั่วไป หรือข้อมูลเชิงวิชาการ เพียงแค่คลิกเดียวก็สามารถรู้ในสิ่งที่สงสัยอยู่ เช่น ต้องการรู้ว่าสินค้าที่ออกมานั้นมีประสิทธิภาพจริงหรือไม่ ผู้บริโภคจะทำการค้นหารีวิวจากผู้ใช้คนอื่น เพื่อประกอบการตัดสินใจในการซื้อสินค้า เพราะรู้ว่าถ้าตรวจสอบจากผู้ผลิต ก็ต้องบอกว่าของตนดี มีคุณภาพแน่นอน ทั้งที่ความเป็นจริงอาจไม่เป็นเช่นนั้น 

   3.ความน่าสนใจของเนื้อหาและภาพของโฆษณา นี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ ของปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคเชื่อถือโฆษณาน้อยลง การให้ความสำคัญด้านการสื่อสารของโฆษณาคือสิ่งที่ผู้ประกอบการควรตระหนักถึง อีกทั้ง ควรมีความจริงใจต่อผู้บริโภค เพราะการที่ผู้บริโภคเชื่อถือน้อยลงก็มาจากการที่ เนื้อหาโฆษณา มีความปรุงแต่งเกินจริง หรือบางกรณีคือให้ผลลัพธ์ของสินค้าที่แย่เกินคำโฆษณา สร้างความทรงจำที่ไม่ดีให้กับผู้บริโภค ทำให้ความเชื่อถือลดลงไปอีก ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่เพียงแค่ต้องการรอรับความจริง แต่ยังต้องการมีส่วนร่วมในการ แสดงออกและแลกเปลี่ยนความเห็น การยอมรับผิดของผู้ผลิตจึงเป็นโอกาสที่จะโกยคะแนนความนิยมจากผู้บริโภคกลับคืนมา 

   เมื่อเรามีสื่อที่หลากหลายมากขึ้น ซับซ้อนมากขึ้น การทำคอนเทนต์ก็จะต้องผันให้ซับซ้อนและลึกซึ้งตาม การโฆษณาที่จะสื่อไปยังผู้บริโภคในยุคดิจิทัลนี้ ต้องปรับเปลี่ยนจากการที่เป็นผู้ส่งสารอย่างเดียว เช่นในอดีต มาเป็นผู้รับสารจากผู้บริโภคด้วย เพื่อนำข้อมูลที่ได้จากผู้บริโภคมาสร้างสรรค์งานโฆษณา ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องสร้างเนื้อหาโฆษณาที่ผสมผสานระหว่างสินค้า ช่องทางการสื่อสาร และการปรับเปลี่ยนเนื้อหาตลอดเวลา ใช้วิธีการสร้างประสบการณ์ด้านความรู้สึก เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความคุ้นเคย รู้สึกดีต่อสินค้า และการสื่อสารต้องสื่อสารแบบ Real Time ในช่วงเวลาที่เหมาะที่ควร เพื่อให้ผู้บริโภคยังคงเป็นลูกค้าของสินค้านั้นต่อไป 

 

 

Comments