302 week ago — ใช้เวลาอ่าน 6 นาที
Digital Transformation เข้ามาเปลี่ยนแปลง Solution ของทุกธุรกิจ ไม่เว้นแม้แต่อาหารที่ปัจจุบันมีผู้ให้บริการ Solution ใหม่ๆ ซึ่งเมื่อผสานกับ Food Tech ก็ทำให้เกิดอาหารที่มีความปลอดภัย หลากหลาย เข้าถึงง่าย และมีราคาถูกลง ตัวอย่างเช่น การย้ายแหล่งเพาะปลูกเข้าสู่เมืองเพื่อกระจายอาหารสดใหม่โดยการคิดค้นวิธีปลูกพืชที่ไม่ต้องใช้ดินหรือแสงแดด เพื่อให้สามารถปลูกผักและผลไม้ภายในเมืองใหญ่และนำผลผลิตที่สดใหม่มาจำหน่ายแก่ชาวเมืองได้ทันทีด้วย E-commerce
หรือแม้กระทั่งตัวเทคโนโลยี Blockchain ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในปีที่ผ่านมา ก็ยังมีการนำมาใช้ในวงการ FoodTech เพื่อสร้างความมั่นใจและเสริมความปลอดภัยด้านการจัดการอาหาร โดย Blockchain จะทำให้เราสามารถเริ่มบันทึกข้อมูลของอาหารได้ครบทั้งกระบวนการตั้งแต่ต้นทางการผลิตจนถึงชั้นวางสินค้าใส่ลงในระบบ รวมถึงรายละเอียดต่างๆ อย่างเวลาการให้น้ำพืชผัก ชนิดอาหารของสัตว์ ปุ๋ยหรือยาฆ่าแมลงไปจนถึงที่ตั้งของสวน วิธีการเก็บเกี่ยว การจัดการภายในโรงงาน จนถึงขั้นทราบว่าส่งไปขายที่ไหนบ้าง ซึ่งหากมีปัญหาก็สามารถรู้ต้นเหตุ และแก้ไขป้องกันได้อย่างถูกต้องไปจนถึงปลายทางก่อนถึงมือผู้บริโภค
อีกนวัตกรรมใหม่ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในวงการ FoodTech ก็คือ Future of Meat หรือทิศทางการผลิตเนื้อสัตว์เพื่ออนาคต อาจฟังดูเป็นเรื่องไกลตัวหรือดูเหมือนเรื่องราวในหนัง Sci-fi แต่ในอีกมุมหนึ่งของโลก เนื้อสัตว์แห่งอนาคตไม่ได้เป็นเพียงจินตนาการอีกต่อไป เพราะมีบริษัทที่พยายามศึกษา วิจัย และทดลองปลูกถ่ายเซลล์เพื่อผลิตเนื้อสัตว์ที่มีคุณค่าทางอาหารสำหรับรับประทาน โดยไม่จำเป็นต้องเลี้ยงสัตว์เหล่านั้นเพื่อฆ่าเป็นอาหารอีกแล้ว
ทำไมคนเราจึงมุ่งมั่นนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยผลิตเนื้อสัตว์สังเคราะห์จาก Lab?
แน่นอนว่าไม่ใช่เพื่อคนรักเนื้อจะได้ทานเนื้ออย่างจุใจ แต่เป็นความพยายามแก้ไขปัญหาอาหารขาดแคลนที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะอาหารในหมู่โปรตีน ซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกายและการเจริญเติบโต แต่มีราคาแพงและต้นทุนสูง เราจึงได้เห็น Startup จากประเทศเนเธอร์แลนด์ที่ชื่อว่า Mosa Meat คิดค้นการสร้างโปรตีนสังเคราะห์ราคาถูกในรูปแบบของเนื้อเบอเกอร์จาก Stem Cell ที่มีต้นทุนเพียง 11 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งถูกกว่าเนื้อเบอเกอร์สังเคราะห์ในตลาดที่มีต้นทุนหลักแสนเหรียญสหรัฐฯ และเป็นหนึ่งในความหวังที่จะกระจายอาหารประเภทโปรตีนไปยังประชากรโลกให้ได้มากที่สุด
mosameat.com
เนื้อสังเคราะห์ที่บริษัทต่างๆ กำลังวิจัยและทดลองอยู่ เรียกกันว่า Clean meat หมายถึง เนื้อที่เกิดจากการเพาะเซลล์แทนที่จะเป็นเนื้อที่ได้มาจากสัตว์ต่างๆ โดยแนวคิดที่ว่าเนื้อสัตว์สังเคราะห์นั้นดีต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า เพราะพยายามผลิตโดยการใช้พลังงาน อาหาร น้ำ และทรัพยากรอื่นๆ น้อยกว่าการเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นอาหารแบบทั่วไป
ดังนั้น ในขณะที่หลายๆ คนยังรู้สึกว่าเนื้อสัตว์สังเคราะห์นั้นดูน่ากลัวและผลิตขึ้นมาแบบไม่ธรรมชาติ แต่ในทางเทคนิคแล้ว หากสามารถผลิตเนื้อสัตว์สังเคราะห์ได้ตามคอนเซปต์ที่ตั้งไว้จริงๆ นวัตกรรมดังกล่าวนอกเหนือจากการช่วยเหลือประชากรโลกที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกวันแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีการได้มาซึ่งอาหารที่มีจริยธรรมมากขึ้น และยั่งยืนขึ้นในเชิงสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
การเลียนแบบเนื้อสัตว์ให้เหมือนจริงที่สุด ไม่ใช่เรื่องง่าย และมีข้อจำกัดมากมายตามมา
ตัวอย่างของวิธีการผลิต Clean meat เห็นได้จาก Startup รายหนึ่งใน San Francisco ที่ได้รับความสนใจในฐานะผู้เพาะเนื้อสัตว์จากห้องทดลอง ซึ่งมีชื่อว่า Just บริษัทนี้มีความตั้งใจที่จะผลักดันให้เนื้อสังเคราะห์เหล่านี้ไปอยู่ในกระแสหลักของผู้บริโภคให้ได้ วิธีการผลิตก็คือการนำเนื้อเยื่อจากสัตว์มาเข้า Lab แล้วเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเหล่านั้นให้โตขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ทำให้เซลล์เชื่อว่ายังอาศัยอยู่ในร่างกายของสัตว์ จนกระทั่งเซลล์นั้นเติบโตและใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์มากที่สุด
Justforall.com
แต่กว่าจะนำนวัตกรรมนี้เข้าสู่ตลาดจริงได้ ก็ถือว่ายังมีข้อจำกัดอยู่มาก เพราะแม้จะมีประโยชน์หลายด้าน แต่การจะให้ผู้คนวงกว้างยอมรับในฐานะอาหารได้นั้น ปัจจัยสำคัญก็คือ รสชาติ เนื้อสัมผัส และความรู้สึกที่สามารถทดแทนเนื้อแบบดั้งเดิมได้ ซึ่งการจะสร้างเนื้อสังเคราะห์ในปริมาณที่เพียงพอต่อการบริโภคของตลาด หรือเพาะเนื้อเยื่อที่มีโครงสร้างที่ซับซ้อนจนทดแทนเนื้อสัตว์หลายๆ ประเภทอย่างเนื้อเสต็กนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และแม้จะได้รับการยอมรับจากชาว Vegan (งดทานเนื้อสัตว์) หรือกลุ่มรณรงค์ต่อต้านการทารุณกรรมสัตว์ก็ตาม แต่ขั้นตอนการผลิต Clean meat ในปัจจุบันยังจำเป็นต้องใช้เนื้อเยื่อหรือสารบางอย่างจากสัตว์อยู่ดี
ด้วยข้อจำกัดด้านการผลิตหลายๆ บริษัทจึงพยายามเริ่มทำ Clean meat ในรูปแบบของเนื้อที่เลียนแบบได้ง่ายที่สุด เช่น เนื้อสับเบอร์เกอร์ หรือมีไอเดียในอนาคตว่าจะผลิต ฟัวกราส์ ซึ่งหากทำได้จริง นอกจากจะช่วยให้เมนูตับห่านราคาถูกลงแล้ว ยังช่วยลดการทารุณกรรมห่านจากวิธีแบบดั้งเดิมอีกด้วย
Startup ด้าน FoodTech ที่พัฒนาอาหารทะเลสังเคราะห์
ไม่ได้มีแค่เนื้อวัว เนื้อไก่เท่านั้น แต่ยังมีเนื้อปลาสังเคราะห์ที่คิดค้นขึ้นด้วยคอนเซปต์เดียวกัน คือคงไว้ซึ่งรสชาติ สารอาหาร ราคาถูกลง แต่ต่างกับปลาจริงๆ ตรงที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม และจะช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับท้องทะเลโดยลดการทำประมงและการจับปลาทะเลมาทำเป็นอาหาร แถมยังไม่มีสารปนเปื้อนที่มักจะมากับอาหารทะเลอีกด้วย บริษัทที่ชื่อ Finless Foods นี้ก่อตั้งโดยนักเคมีชีวภาพใน California ที่ใช้ Biotechnology หรือเทคโนโลยีชีวภาพเข้ามาผนวกกับ Food Tech จนเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา Startup รายนี้ก็ได้รับเงินระดมทุนรอบล่าสุดไปที่ 3.5 ล้านเหรียญฯ โดยหวังว่าจะทำ R&D เบื้องต้นให้สำเร็จลุล่วง เพื่อให้พร้อมเข้าสู่กระบวนการการผลิตจริง และผลักดันให้เนื้อปลาสังเคราะห์นี้เข้าสู่ตลาดโดยไว
Finlessfoods.com
ในวงการ Food Tech นั้นยังมีพื้นที่อีกมากสำหรับนวัตกรรมที่จะเข้ามาช่วยพัฒนาความเป็นอยู่ของประชากรโลกได้ อยู่ที่ว่าเราตั้งต้นจากปัญหาที่ส่งผลกับคนวงกว้างได้จริงหรือไม่ และมุ่งมั่นแค่ไหนกับการพัฒนาและผลักดันให้นวัตกรรมออกสู่ตลาดได้จริง Digital Ventures จะนำเรื่องราวที่น่าสนใจของเทคโนโลยีต่างๆ มาให้อ่านกันอีกเรื่อยๆ อย่าลืมติดตามนะครับ
ที่มาของข้อมูล
Wired.com, Veggieathletic.com, Finlessfoods.com
Deep Tech และ “อนาคตล่องหน” แห่งมวลมนุษยชาติ
301 week ago
Most read this week
Trending
Comments
Please login หรือ สมัครสมาชิก to join the discussion