ในทุกธุรกิจต้องมีการกำหนดกลุ่มลูกค้าไว้อยู่แล้ว เพราะจะทำให้ธุรกิจสามารถเดินไปได้อย่างถูกทาง ซึ่งการกำหนดกลุ่มเป้าหมายมีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นตลาดล่าง ตลาดกลาง และตลาดบน โดยที่ตลาดล่างจะเป็นกลุ่มที่มีการแข่งขันกันด้านราคาที่ค่อนข้างต่ำและเน้นปริมาณ ตลาดกลางจะเป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อในระดับหนึ่งและเป็นช่วงอายุวัยรุ่นที่จะบริโภคสินค้าด้วยเหตุและผล ตลาดกลางจะสามารถเข้าถึงได้ง่ายด้วยการส่งข้อมูลผ่านสื่อต่างๆ ส่วนตลาดบนจะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและมีการคาดหวังในตัวสินค้าสูงเช่นกัน ในบางธุรกิจต้องมีการคิดต่างเพื่อหาลูกค้ารายใหม่โดยจะโฟกัสไปที่ตลาดกลางเพราะตลาดกลางมีกลุ่มลูกค้าค่อนข้างเยอะและมีกำลังซื้อที่อยู่ระดับปานกลางถึงค่อนข้างสูง ดังนั้น ธุรกิจต้องมีการวางแผนในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายใหม่

วิธีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนมีดังนี้

1. รู้จัก กลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจเพศ อายุ การศึกษา อาชีพ รายได้ เป็นต้น

2. เข้าใจ พฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย เช่น กิจกรรม ความชอบ ช่วงเวลาว่าง

3. วิเคราะห์ กลุ่มเป้าหมายเพื่อนำมาปรับใช้กลยุทธ์

ปัจจุบันเริ่มมีการโฟกัสกับตลาดกลางมากขึ้น เพราะเป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อระดับหนึ่ง และมีการคาดหวังจากสินค้าและบริการที่ได้รับอย่างมีเหตุมีผลมากกว่า ยกตัวอย่าง ธุรกิจสมาร์ทโฟนยี่ห้อ VIVO ได้วางกลยุทธ์ในการโฟกัสกลุ่มลูกค้าระดับกลาง

• ได้ทำการศึกษาความต้องการและรายได้ของลูกค้ากลุ่มนี้ เพื่อผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคได้มากที่สุด

• ลดจำนวนรุ่นที่จะเปิดตัว เพื่อสร้างการจดจำ

• มีความโดดเด่นในการใช้งานพร้อมทั้งการดีไซน์และฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่แท้จริง

• กำหนดราคาที่อยู่ในเกณฑ์ระหว่าง 10,000 - 17,000 บาท เพราะเป็นราคาที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ง่าย

ข้อคิดที่ได้จากสมาร์ทโฟนนี้ทำให้เห็นว่าถ้าเป็นแบรนด์ใหม่ในตลาดจะแข่งขันกับแบรนด์ใหญ่ที่ครองตลาดอยู่แล้วค่อนข้างลำบาก เพราะแบรนด์เจ้าใหญ่จะจับกลุ่มตลาดระดับบนและมีการจดจำแบรนด์ที่ค่อนข้างดีกว่า ทำให้แบรนด์ใหม่ควรมองหากลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีโอกาสขายได้มากกว่า เป็นการจับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างประสบความสำเร็จ