คงไม่มีอะไรที่สำคัญไปกว่าการวางแผนธุรกิจให้มั่นคงตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อให้การร่วมทุนของคุณเกิดขึ้น คุณจะได้ประโยชน์จากการตอบคำถามเกี่ยวกับการวางแผนธุรกิจที่สำคัญที่สุดนั่นคือ คุณสามารถลงทุนได้เท่าไร

นอกจากต้นทุนของการวางแผนการลงทุนเบื้องต้น คุณต้องวางแผนการเงินสำรองเผื่อเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

ลำดับแรก

หลังจากที่เข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจของคุณแล้ว ขั้นตอนต่อมาขั้นแรกคือคำนวณต้นทุนการทำธุรกิจเบื้องต้นให้ได้จากการวางแผนการดำเนินงาน จากนั้นต้องประเมินค่าใช้จ่ายในการจัดการธุรกิจของคุณอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งค่าใช้จ่ายประจำที่เกิดขึ้น กุญแจสำคัญคือค้นหาค่าใช้จ่ายทางธุรกิจที่เป็นองค์ประกอบแต่ละอย่าง

สิ่งนี้จะช่วยในการสร้างรายการหรือเค้าโครงเพื่อกำหนดจำนวนเงินที่คุณจะต้องใช้จ่าย เช่น รายการสินค้าที่ต้องลงทุนค่าตอบแทนพนักงาน ค่าใช้จ่ายสำนักงานอุปกรณ์ ค่าการตลาด ค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแปลงเงินสด ค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดและอื่นๆ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของธุรกิจของคุณ

การจัดการหมวดหมู่อย่างรวดเร็วทำให้คุณสามารถประเมินค่าใช้จ่ายได้ ดังนี้

• ค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้น โดยปกติค่าใช้จ่ายนี้จะเป็นค่าใช้จ่ายก่อนที่คุณจะเริ่มงานหรือก่อนเดือนแรก ตัวอย่างเช่น ค่าใช้จ่ายทางด้านกฎหมาย การออกแบบโลโก้ / เว็บไซต์ ที่ตั้งสำนักงาน การปรับปรุง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ

• สินทรัพย์เริ่มต้น คือสินทรัพย์จะเป็น "เงินสด" ในรูปของเงินในบัญชีบริษัทของคุณ และค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้น ส่วนอื่นๆ อาจเป็นอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์เครื่องจักร ฯลฯ

• การจัดหาเงินทุน รวมทั้งการลงทุนและการกู้ยืม

ต้องคำนึงถึงรายละเอียดอะไรบ้าง?

• การจ้างพนักงานระดับผู้เชี่ยวชาญเพื่อมาช่วยปรับปรุงธุรกิจของคุณ

การดำเนินงานของบริษัทนอกจากการจ้างพนักงานทั่วไปแล้ว ยังต้องมีพนักงาน 3 แบบที่คุณขาดไม่ได้นั่นก็คือ พนักงานด้านกฎหมาย พนักงงานด้านบัญชีที่มีความซื่อสัตย์ และที่ปรึกษาการวางแผนการทำธุรกิจ ในระหว่างการดำเนินการเปิดธุรกิจใหม่ พนักงานบัญชีจะเป็นหลักในการบันทึกการใช้จ่ายซึ่งจะทำให้การลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นเป็นเรื่องง่ายขึ้น

การสร้างความแข็งแกร่งในภาวะแทรกซ้อนทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นในธุรกิจของคุณ ที่ปรึกษาทางกฎหมายหรือทนายความคือคนสำคัญ บทบาทของเขาจะไม่จำกัดเฉพาะการให้บริการที่ปรึกษาด้านกฎหมาย แต่ยังทำให้บริษัทอยู่ในจุดที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นจากปัญหาและข้อห้ามต่างๆ ทางกฎหมาย

เมื่อพูดถึงกลยุทธ์ในการทำธุรกิจของคุณแล้ว ที่ปรึกษาด้านธุรกิจจะเข้ามามีบทบาทในการหากลยุทธ์ที่จะนำไปสู่โอกาสทางธุรกิจ นอกจากนี้ยังต้องดำเนินการวิจัยเพื่อให้ลูกค้าได้รู้จักกับบริษัทด้วยแนวทางที่ดีที่สุด ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตด้านธุรกิจทั้งรายได้และกำไร

• การทำแผนธุรกิจแบบแข็งแกร่งด้วยการทำแผนโฆษณาและค่าใช้จ่ายการตลาด

ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กมักจะทำพลาดในการคิดว่าเงินเหลือถึงจะนำไปใช้สำหรับการตลาดและการโฆษณา แต่ปรัชญานี้ไม่จริงในปัจจุบัน คุณสามารถเล่นเกมกับงบประมาณที่มีน้อยนิดได้หากใช้ควบคู่กับการคิดอย่างชาญฉลาดบางอย่าง เช่น นามบัตรที่ออกแบบอย่างมืออาชีพ และเว็บไซต์ที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายมากนัก

อีกเคล็ดลับด้านการตลาดแบบสมาร์ทคือการให้ตัวอย่างผลิตภัณฑ์หรือบริการฟรีแก่ลูกค้าที่ต้องการลองสินค้าแล้วเกิดความชอบ และในที่สุดก็จะกลายมาเป็นการให้กลับคืนมาสู่ธุรกิจของคุณ นอกจากนี้บรรดานิตยสารรายเดือนยังมีพื้นที่โฆษณาที่ขายไม่ค่อยดีในช่วงสิ้นเดือน ก็อาจมีการนำเสนอในราคาพิเศษมาให้ก็ได้

หลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้วยการทำประกันภัย

ขณะที่จะทำประกันทบทวนให้แน่ใจก่อนว่าคุณไม่ได้เสียเงินไปกับการทำประกันอย่างใดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ให้มองไปที่บริษัทประกันภัยที่เสนอการทำประกันได้หลายอย่างในราคาที่น้อยกว่า นอกจากวิธีนี้จะเป็นวิธีที่ดีในการประหยัดเงิน และอาจเป็นรวมเป็นหนึ่งเดียวเพื่อตอบสนองต่อทุกความต้องการทั้งด้านการประกันส่วนบุคคลและธุรกิจ เช่น บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ การแพทย์ การประกันชีวิต และการประกันความรับผิดต่อบุคคลภายนอก

การวางแผนพื้นที่สำนักงานของคุณ

ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการตกแต่งพื้นที่น่าจะเป็นเรื่องที่ใหญ่ที่สุด คุณต้องทำบัญชีสำหรับค่าใช้จ่ายสำหรับอุปกรณ์และค่าทำสัญญาเช่าสถานที่ขึ้นมาก่อนที่จะเริ่มธุรกิจ ถ้าเป็นไปได้การติดตั้งและอุปกรณ์อาจต้องจัดให้อยู่ในส่วนของเงินลงทุนระยะยาว การติดตั้ง การตกแต่ง และการปรับปรุงใหม่ สามารถทำได้จากการจัดให้มีการประมูลจากผู้รับเหมารายต่างๆ รวมไปถึงบรรดาอุปกรณ์สำนักงานต่างๆ และค่าจัดทำป้ายบริษัทด้วยเช่นกัน

เพิ่มเงินในตอนเริ่มต้น

มีหลายวิธีที่คุณจะสามารถเพิ่มเงินตั้งต้น ในขณะที่ธนาคารและผู้ให้กู้มักไม่ยอมให้กู้ถึง 100% ของเงินทุนทั้งหมด คุณอาจหาเอาเองให้ได้หนึ่งในสามของจำนวนเงินที่ต้องใช้ อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่ควรทราบไว้คือนักธุรกิจทุกคนควรคิดไว้ว่าเงินสินเชื่อประเภทใด ๆ ก็ตามล้วนเป็นจำนวนเงินกู้ยืม และต้องเขียนไว้ใน "ข้อสัญญา" แม้ว่าจะมาจากเพื่อนก็ตาม เอกสารควรระบุเงื่อนไขของการระดมทุนและการคืนทุนจากผู้ให้กู้ซึ่งจะเป็นหลักฐานเพิ่มเติมในการบันทึกเงินกู้ หรือหลักฐานสำหรับลูกค้าที่คาดหวังหรือผู้ซื้อที่ต้องการลงทุนในบริษัท

อีกวิธีหนึ่งในการระดมเงินคือการลงทุนจากบริษัทที่สนใจจะลงทุนในรูปแบบของหุ้นส่วน บริษัทหรือเพื่อนฝูงก็อาจร่วมลงทุนในธุรกิจได้ และการเป็นหุ้นส่วนจะถือว่าเป็นเจ้าของด้วยอีกคนหนึ่ง อย่างไรก็ตามคุณต้องระวังพันธมิตรที่มาร่วมลงทุนนี้ต้องดูให้มีความน่าเชื่อถือด้วย

ในกรณีที่คุณเป็นเจ้าของกิจการและกำลังมองหาเงินทุนเพิ่มเติมสำหรับธุรกิจ ทางเลือกหนึ่งคือการขอสินเชื่อประเภท 'Home Equity' โดยใช้บ้านของคุณเป็นหลักประกันในการกู้เงิน ข้อดีของการนำบ้านมาค้ำประกันคือ ผู้ประกอบการยังสามารถได้รับส่วนลดหย่อนภาษีบางอย่าง เช่น การตัดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยให้เป็นค่าใช้จ่ายทางธุรกิจ

• เงินกู้บัตรเครดิต เป็นตัวเลือกที่ทุกคนต้องนึกถึงอย่างแน่นอน แต่ก็อาจจะไม่ถูกเลือกมาใช้โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ชอบการจ่ายดอกเบี้ยสูงๆ อย่างไรก็ตามคุณสามารถใช้บัตรเครดิตชำระค่าสินค้าและบริการบางอย่างได้โดยไม่มีดอกเบี้ยและแบ่งจ่ายเป็นรายเดือน ถ้าคุณคิดว่าไม่สามารถบริหารจัดการธุรกิจและการระดมทุนได้ช่องทางนี้อาจจะสามารถแบ่งเบาภาระของคุณได้ อย่างไรก็ตามนี่อาจจะหมายความว่าคุณจะต้องแบ่งปันผลกำไรและความสูญเสียกับพาร์ทเนอร์ของคุณซึ่งขึ้นอยู่กับสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท

• สินเชื่อธนาคาร เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการกู้ยืมหลักทรัพย์ค้ำประกันบางส่วน และเพื่อให้ผู้ให้กู้สบายใจเกี่ยวกับการชำระเงินกู้คืน สามารถตรวจสอบอัตราที่ดีที่สุดในแต่ละธนาคารได้

• เงินให้กู้ยืมของรัฐบาล ต้องผ่านธนาคารซึ่งมีขั้นตอนในการเตรียมเอกสารด้วย แม้ว่าเงินกู้ของรัฐบาลจะต้องมีหลักประกันในการกู้ยืมและเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้น แต่ก็ให้กู้เงินได้ในระยะยาว

เมื่อจะเริ่มต้นธุรกิจไม่ได้หมายความว่าคุณจำเป็นต้องมีเงินทุนหนา แต่หากอาศัยกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดก็สามารถรับมือและวางรากฐานที่มั่นคงได้ และช่วยให้ธุรกิจของคุณก้าวกระโดดได้ไวกว่าที่คิด